ว่ากันว่าในบรรดาความอยากของปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ความอยากกิน(แดก) เป็นความอยากที่ห้ามได้ยากที่สุด และเมื่อเกิดความอยากแล้วก็มักจะขาดสติในการยับยั้งชั่งใจ กินมันทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะโรลส์อร่อย ยุ้งข้าวแสนรัก โรงพักผ่อนผัน บ้านใหญ่ในไร่ส้ม เอ้ย ไม่ใช่ๆ กินมันทุกอย่างที่อยากกิน กินแต่ของที่ชอบๆ เดิมๆ กินซ้ำๆมันทุกวัน

สมัยก่อนผมก็เป็น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ต้องเน้นเอาเนื้อส่วนมันๆด้วยนะ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง นี่ของโปรดเลย  กินได้บ่อยๆ ขนมเค้กร้านดังๆ ขนมปังร้านโปรด กาแฟร้านหรูๆ เสาะแสวงหาไปกินถึงขั้นทำเป็นเว็บแนะนำกันเลยทีเดียว .. สุดท้ายไม่ต้องบอก ป่วยครับ อาการปวดตามข้อกระดูกมาเยือนเพราะกินของมัน กินชีส กินขนมนมเนย มากเกินไป ดีว่าพอรู้ทันก็มีสติ เกิดสมาธิ ปัญญาญาณ ยอมหุบปากตัวเอง เลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ กินผักผลไม้ กิน ข้าวกล้อง ข้าวออร์แกนิค ว่ายน้ำบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง ทำไปสักระยะเห็นผลทันทีว่าอาการปวดข้อปวดกระดูกหายไป
.

ส่วนอาหารขยะที่อยากกินก็ยังกินบ้าง เดินสายกลางๆ เอนไปทางดีมากหน่อย ชีวิตจะได้ไม่ขมขื่นจนเกินไป

.
ลองคิดกันดูนะครับ! ในยุคสมัยที่เราค้นหาข้อมูลทางโภชนาการได้ง่ายๆ และรู้ทั้งรู้ว่าอาหารประเภทไหนกินแล้วดี ประเภทไหนกินแล้วไม่ดี เราก็ยังกินตามใจปากมากกว่ากินตามใจสติ แล้วสุดท้ายต้องป่วยหนัก เป็นเบาหวาน เป็นมะเร็ง เป็นความดัน เป็นโรคหัวใจ .. โรคพวกนี้มันไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคเลยนะครับ แต่มันเกิดจากความอยากกินตามใจปากล้วนๆ
.
*ขอขอบคุณภาพประกอบ จาก www.tohtei.com ภาพการตักบาตรที่วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย